หนึ่งใน Feedback ที่หลายคนพูด คือไม่ค่อยเห็นบทบาทการทำงานในพื้นที่ของพรรคก้าวไกล ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ส.ส.เขต และนักการเมืองของก้าวไกลหลายคนทำงานในพื้นที่อย่างหนัก
ในฝั่งการสื่อสารก็มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทำงานส่วนใหญ่เป็นงานในพื้นที่จริงๆ ความสนใจของคนในโลกออนไลน์มักให้ความสนใจประเด็นข่าวระดับชาติมากกว่า ทำให้การสื่อสาร ส.ส. เขตมีความยากที่จะทำออกมาในรูปแบบที่น่าสนใจ
เราจึงอยากถามประชาชนและให้ทุกคนช่วยออกแบบว่าเราจะสื่อสารการทำงาน ส.ส. เขตแบบอย่างไรดี?
ทำเว็บศูนย์กลางที่โชว์ map ประเทศไทย และพื้นที่ที่มี ส.ส. เขตก้าวไกลอยู่ ทำเป็นฐานข้อมูลให้ประชาชนเข้าไปดูว่าพื้นที่นี้ ส.ส. คนนี้กำลังผลักดันประเด็นไหน ทำอะไรเสร็จไปแล้วบ้างหรืออยู่ในขั้นตอนไหนอย่างไร
ในเว็บมีรูปอัพเดทต่างๆ อาจจะจัดหมวดหมู่ประเด็นที่คล้ายกันเช่น ประมง ชาติพันธุ์ สิ่งแวดล้อม น้ำท่วม พอคลิกเข้าไปในหมวดหมู่ก็จะเห็นว่ามีกี่พื้นที่ที่มีประเด็นเดียวกันได้
พอครบรายเดือน หรือไตรมาส อาจจะจัดรายการ live เอา ส.ส. เขตสักสามสี่คนมาพูดคุยสรุปการทำงาน และประสบการณ์ในการลงพื้นที่
ความคิดนี้น่าสนใจมากๆ ครับ เราจะรีบไปศึกษาวิธีการทำว่าจะทำสิ่งนี้ออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง
ลองดูเว็บนี้เป็นต้นแบบได้ครับ แต่ปรับเอาระบบแผนที่มาใช้ให้ ปชช ติดตามดูโปรไฟล์ ดูการทำงานเขตของ ส.ส.
https://www.govtrack.us/congress/members/map
เสริมคุณ Tony Weedsome นะครับ
ผมคิดว่าผู้สมัครสสเขตแต่ละคนควรจะมี Personal Branding เป็นของตัวเอง เข้าใจว่าอาจจะยากเพราะมีมากถึง 400 เขต แต่อย่าลืมว่าคนในพื้นที่แต่ละเขตก็เป็นแสนๆ คน พวกเขาย่อมต้องการคนเก่ง มีความสามารถไปเป็นตัวแทนเขา
ผมเสนอว่าให้ทุกคนทำเพจของตัวเองไปด้วยเลย และในเว็บก็ให้มีโปรไฟล์ของแต่ละท่าน เช่นผมอยู่บางนา ผมค้นหา สสเขตบางนา ผมสามารถเจอเพจสส.เป้เขตบางนาได้ทันทีใน Google อันนี้เป็นข้อได้เปรียบ เพราะ Facebook มันติดอันดับง่าย แต่ที่ผมหายากหน่อยคือสส.เป้เป็นใคร มาจากไหน ตรงนี้เลยอยากให้เว็บมีข้อมูลด้วยครับสำหรับผู้สมัครสสเขตแต่ละที่
ต่อให้คนรากหญ้าเขาก็ใช้ Google เป็น เมื่อเขาเจอป้ายหาเสียง เขากดเซิร์ช Google เจอว่าคนๆ นี้เป็นใคร น่าเชื่อถืออย่างไร ก็จะทำให้มีโอกาสเลือกมากขึ้นครับ เพราะก้าวไกลไม่ได้มีงบลงพื้นที่มากเหมือนพรรคอื่นๆ ควรใช้ช่องทางฟรีให้เป็นประโยชน์มากที่สุดครับ
หลักๆ ชาวบ้านเขาใช้อินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ใช่คนที่สนใจในการเมือง และพวกเขาก็มักจะเลือกจากคนที่เขารู้จัก ดังนั้นก็ต้องพยายามทำให้เขารู้จักได้ง่ายที่สุดครับ
เสริมคุณ kengnattakit
ไม่ใช่แต่เฉพาะคุณ kengnattakit รวมถึง ท่านผู้อ่าน ทุกท่านนะครับ
ลองมองย้อนภาพกลับไป ก่อนการเลือกตั้งนะครับ หากผมจะถามว่า "ผมจะเลือกใครเป็น ส.ส. เขต ผมจะรู้จักพวกเขาได้อย่างไร"
1. ป้ายหาเสียง (ถือเป็นช่องทางหลักของทุกพื้นที่)
2. เว็บไซต์ กกต. ก่อนการเลือกตั้ง (น้อยคนจะเลือกช่องทางนี้)
3. เว็บไซต์ พรรคการเมือง (ต้องเป็นคนที่มีความชอบในพรรคการเมืองแต่ละพรรคพอสมควร)
4. สื่อโทรทัศน์ (ประชาสัมพันธ์ได้ไม่ครบถ้วน เพราะมี 400 เขต) ใครจะทำครบหมดทุกคน รายจ่ายมหาศาล
วิธีที่ง่ายที่สุด ที่ผมคิดได้ คือ
1. Facebook Fan Page
2. กำหนด keyword ร่วมกับการโพสต์ ทุกครั้ง เช่น ก้าวไกล..(ตามด้วยพื้นที่) [ต้องมี ต้องทำ] หรือ สส.(พื้นที่) ส.ส. (พื้นที่)
(เท่าที่เห็น เขตบ้านผม ยังไม่มีของใครขึ้นเลย) (อยากชนะ อย่างน่้อยต้องขึ้นหน้า 1 Google ให้ได้)
3. หากเป็นไปได้ ทำร่วมกับการใช้บริการ Google Ads ด้วย เพื่อดัน Page ของตัวเองสู่หน้าแรก อย่างรวดเร็ว ก่อนการเลือกตั้ง
เหล่านี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ผมเชื่อว่า ผู้สมัคร ท่านไหนได้อ่าน เป็นประโยชน์แน่นอน
สื่อสารอย่างมี Empatatic
สร้าง Platform ที่สามารถให้ประชาชนและสาธารณะเข้าถึงได้
มี One Map ที่รวบรวมและนำเสนอข้อมูล/สถานการณ์/ปัญหา ในระดับท้องถิ่น โดยแยกหมวดหมู่เป็นประเด็นเช่น ประเด็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นเศรษฐกิจและการพัฒนา ประเด็นสังคมและคุณภาพชีวิต ประเด็นการศึกษาและการเรียนรู้ ประเด็นพหุวัฒนธรรมศาสนาและการส่งเสริมประชาธิปไตย เมื่อมีการรายงานปัญหาในพื้นที่เดียวกันและมีคีย์เวิร์ดใกล้เคียงกันข้อมูลก็ควรลิงก์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในเชิงประเด็นและบริบทพื้นที่ ลิงก์ให้เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อคือใคร ให้ Platform มีการอัพเดทอยู่เสมอข้อมูลต้องเป็นปัจจุบัน ผสมผสานเทคนิคทางการตลาดแบบอาจารย์ ชช จะได้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ในการออกแบบ Platform ควรคำนึงถึงคาแรคเตอร์ของพรรค มุ่งมั่น ทำจริง โปร่งใส และเข้าถึงได้ เปิดพื้นที่ให้ครบถ้วนทั้ง On Air ,On Line ,On Site
ดีมากครับ
ในเว็บไซต์ ของพรรค ควรมีลิงค์ ของว่าที่ผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ได้แล้วครับ อย่ารอทำใกล้ๆ ทำเลยครับ แล้วค่อยแก้ทีหลังเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
เว็บไซต์ = ทางหลัก ทางหลวง
ว่าที่ผู้สมัคร = ทางชนบท ซอย
ไม่มีใครที่จะเดินทางโดยใช้แต่ทางชนบทเป็นอย่างแรกหรอกครับ เขาต้องใช้ทางหลวงก่อนในการเดินทาง แล้วค่อยเข้าซอย
ทำ เฟซบุคกรุป ของพื้นที่ อาจจะแบ่งตามจว หรือเขตเลือกตั้ง
แล้วให้ปชช เสนอแนะความเห็น หรือ ร้องเรียน
แล้วทีมงานพรรค ประเมินเอาว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใครควรจะไปออกหน้างาน แคนดิเดท อบจ อบต หรือ สส แล้วไปลงพื้นที่เอา
เวลาลงพื้นที่ก้โปรโมทช่องทางนี้ ว่าเข้ามา ร้องเรียนและเสนอแนะ ได้ มีพื้นที่ไว้ทำแบบนี้เป็นเบสิค
ส่วนแต่ละที่จะคิดกิจกรรมอะไรเพิ่มผ่านชองทางนี้ ก็แล้วแต่จะครีเอท
ใช้วิธีอนุมัติโพสท์โดยให้แอดมินคอยดูก่อน เพื่อไม่ให้กลายเป็นสแปม แล้วทีมงานต้องไปเช็คจริงทุกวันนะ
จริง ๆ ผมคิดว่าอาจจะต้องถามก่อนว่า feedback ทางโลกออนไลน์นั้นสำคัญมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่สำคัญกับการทำงานในพื้นที่ของ สส.เขต คือความรับรู้ของประชาชนในเขตนั้น ซึ่งถ้าทำดีมันก็จะสะท้อนออกมาเป็นผลคะแนนในพื้นที่นั้นเอง (เช่นจากผลการเลือกตั้ง สก. ที่ผ่านมา) โดยการรับรู้และความคิดเห็นของคนในโลกออนไลน์ (ที่ส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้อยู่ในเขตนั้น หรือไม่ได้มีส่วนได้เสียโดยตรงกับการทำงานในพื้นที่เลยไม่ได้สนใจเป็นทุนเดิม) ไม่ได้มามีผลที่จับต้องได้อะไรมากนัก
คือทางพรรคจะลองพัฒนาการประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์เกี่ยวกับงานของ สส. ในพื้นที่ก็ได้ แต่ก็อย่างที่แอดมินบอกเองว่าคนในโลกออนไลน์สนใจข่าวระดับชาติมากกว่า ก็จึงต้องถามว่าเป้าหมายของการทำให้งานพื้นที่เป็นที่รับรู้ของชาวเน็ตนั้นมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน เทียบกับการเน้นโปรโมทงานระดับชาติซึ่งทางก้าวไกลก็ทำได้ดีอยู่แล้ว
สรุปว่าอาจจะต้องเริ่มจากถามว่า ปัญหาที่ทางแอดมินตั้งขึ้นมานั้น เป็นปัญหาจริง ๆ หรือไม่อย่างไรครับ
ผมอาจจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเมืองเท่าไหร่นัก แต่อยากจะให้ สส.เขต ได้เปิดรับสมัคร คนรุ่นใหม่ ตามเขต ที่ท่านรับผิดชอบ หรือเขตอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผิดชอบ มาร่วมกันทำงาน พูดคุย และแก้ปัญหาตามความถนัด เพราะ ผมเชื่อในการปลูกฝังการเรียนรู้ ที่เมื่อเราเข้าใจ มันจะสื่อสารออกมาให้คนอื่นๆออกมาได้ดีกว่าและกว้างกว่า ดูแค่การทำงานท่าน สส.เขต ทางออนไลน์และไปอธิบายให้คนอื่นฟัง สมมุติว่า อาจจะมีการไปลงพื้นที่กับสส.เขต และรับสมัครคนในพื้นที่ที่เป็นสมาชิกส่วนนึง รับสมัครทางออนไลน์ส่วนนึง เพื่อร่วมฟังปัญหาและร่วมถกปัญหาทางออก หรือ เราอาจจะจัดการอบรม สร้างแบบจำลอง เขตๆนึงที่มีปัญหาเรื้อรัง และมีการเปิดรับสมัคร ผู้สนใจ มาร่วมคุยในประเด็นพวกนี้ ทั้งแบบบ้านๆและอาจจะหนักวิชาการ ไปร่วมกัน สิ่งพวกนี้เราควรทำอย่างต่อเนื่องๆเป็น รายอาทิตย์ รายเดือน แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือสิ่งที่จะต้องจ่าย ทางพรรคอาจจะต้องมีสิ่งจูงใจ เพื่อให้คนเข้าร่วมที่เขาได้แก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์แล้ว มันจะเกิดผลอะไรกับเขาอย่างเป็นรูปธรรม ทุกครั้งที่เขามาครับ
คลิปนี้ของ common school ทำออกมาได้ดีมาก
ประเทศโมรอคโคไม่มีทหาร แต่ก็ยังเป็นประเทศที่มีความมั่นคงสูงระดับต้นๆ
ควรผลักดันความคิดนี้สู่สังคม ถึงจะไม่ต้องยุบทิ้ง แต่อย่างน้อยคนทั่วไปก็จะได้รู้ว่า ทหารไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น เป็นองค์กรที่ได้ไม่คุ้มเสีย
https://www.youtube.com/watch?v=aMBsc7BB0hM
สส เขต มีการทำงานในพื้นที่เป็นหลักครับ การไลฟ์สด อาจจะช่วยได้ในกรณีที่กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจอยู่แล้วได้รู้มากขึ้น แต่ยากที่จะได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ คือคุณไม่ได้ชื่นชอบหรือติดตามก็ไม่ได้ดู ดังนั้น สส เขต จริง ๆ แล้ว การทำงานในพื้นที่ก็เพื่อให้คนในพื้นที่ตัวเองเห็นครับ ทีนี้จะทำได้ยังไง แนวคิดที่ผมมองเป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปในพื้นที่ เช่นพื้นที่เมือง การทำงานในพื้นที่เมืองไม่ใช่แค่การไปช่วยตัดไม้ ช่วยพ่นยา (แม้ตอ้งทำ) แต่ต้องมีพื้นที่ในการนำเสนอแนวคิด เราตอ้งหาก่อนว่า พื้นที่ใด ในบริเวณที่ตัวเองทำงาน สามารถใช้เป็นพื้นที่นำเสนอความคิดได้ ผมยกตัวอย่างที่น่าจะเห็นได้ชัดคือ สภากาแฟของ อ ชัชชาติ ผมนึกถึงการทำงานในพื้นที่แนวการวิ่งออกกำลังกายแบบ อ ชัชชาติ มานานแล้วครับ ตั้งแต่ตอนที่ไปสมัคร สส ก้าวไกล ก็เคยบอกตอนสัมภาษณ์ ว่าแนวคิดผม คือการออกไปวิ่ง หรือเดินในตอนเช้าในพื้นที่ เพื่อพบคนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ตลาด ย่านชุมชน การทำแบบนี้สามารถทำให้เกิดการเข้าถึงบุคคล หรือคนที่ทำงานในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือ หรือให้การทำงานร่วมกันเกิดขึ้น ทำให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยรู้จักเราได้รู้จักมากขึ้น
เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ค่ะ เพราะการสื่อในสื่อโซเชียลอย่างเดียวอาจจะไม่ได้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่เท่าไร และอาจจะแบ่งเวลาเดือนละอาทิตย์ ไปตั้งบูธตามสถานที่ต่างๆในชุมชน หรือเวลาที่มีจัดงานไปให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ เช่นการป้องกันโควิด การให้ความรู้ในเรื่องต่างๆที่เป็นประเด็นในช่วงนั้นๆ และรับแจ้งปัญหาภายในพื้นที่ พอคนในพื้นที่เห็นว่าปัญหาของเขาได้รับการแก้ไข คิดว่าน่าจะมีการรับรู้ถึงการทำงานมากขึ้น