ก้าวไกล Next

ย้อนกลับ

ข้อเสนอเกี่ยวกับระบบการคัดกรองผู้แทน ระบบสมาชิก และข้อกังวลเรื่องงูเห่า

blueocynia blueocynia  •  2022-08-21  •    17 ความคิดเห็น  • 

ปัญหางูเห่าเป็นเรื่องที่ควรแตะแต่ไม่ควรกระพือ ควรแตะหมายถึงควรแก้ไข แต่ไม่ควรกระพือคือไม่ควรให้เป็นกระแส เพราะเมื่อเป็นกระแสจะเกิดความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วเกิดสภาพตรวจสอบกันเองภายในมากเกินไป จนผู้คนที่อยู่ได้ก็อยู่อย่างอึดอัดและต้องคอยสอดส่องกันเองว่าใครจะไปรึเปล่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆมันเกิดจากปัจจัยภายในที่พรรคอนาคตใหม่เดินเกมเรื่องผู้สมัครเร็วไป และปัจจัยภายนอกที่พรรคคู่แข่งใช้วิธีลดทอนผู้สมัครเพื่อทำให้พรรคอ่อนแอลง ซึ่งก็ถือว่าได้ผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว คือระยะสั้นได้ตัว สส.ไป และระยะยาวพรรคต้องมาพะวงเรื่องงูเห่าจนถึงปัจจุบัน

อย่างที่เกริ่นไปว่าถึงอย่างไรก็ควรแก้ไข นั่นหมายความว่าที่ผ่านมารวมถึงตอนนี้แม้ว่ากระแสความใหม่จะหมดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก้าวไกลมีเวลามากกว่าช่วงอนาคตใหม่ในการคัดสรรหาผู้แทน ซึ่งวิธีที่พรรคเลือกใช้คัดผู้สมัครด้วยการเลือกผู้แทนก่อนการตั้งขบวน ถือว่าเป็นวิธีที่เหมือนจะพยายามแก้ปัญหางูเห่า แต่ไม่ได้แก้ไขได้ขนาดนั้น อย่าลืมว่ารากฐานที่พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคของประชาชนได้คือการเป็นพรรคมวลชน และผู้แทนก็ต้องมาจากมวลชนจึงจะยึดโยงกับรากฐาน

การได้มาซึงผู้แทนโดยไม่มีรากฐาน ซึ่งต่อให้พรรคต้องจ่ายเงินเพื่ออบรมผู้แทนที่ไม่ได้มาจากรากฐานมากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบช่องว่างในจุดนี้ได้ เพราะหน้าที่ของผู้แทนคือการออกศึก ผู้แทนไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการสร้างฐานมวลชน(ต่อไปนี้จะเรียกว่าสมาชิก) หรือการให้ผู้แทนสร้างสมาชิกก็เป็นการคาดหวังและสร้างภาระต่อผู้แทนมากเกินไป รวมถึงสมาชิกที่ผู้แทนสร้างจะเป็นสมาชิกของผู้แทนไม่ใช่สมาชิกพรรค เมื่อไม่ใช่สมาชิกที่เป็นอิสระในการตัดสินใจมากนัก การตักเตือนหรือถ้าในอนาคตมีการโหวตเลือก ก็จะได้เสียงโหวตแบบฐานเสียงมากกว่าเสียงโหวตอิสระ พรรคต้องสร้างสมาชิกก่อนจึงควรมีผู้แทนจึงจะหยั่งรากได้อย่างมั่นคง และถ้าพรรคเลือกทำสมาชิกก่อน เวลาไม่เกิน 2 ปีผู้แทนที่มาจากประชาชนก็จะผลิดอกออกผล

แต่ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้เลือกทางนี้ สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมาคือสมาชิกจะมีเจ้าของ รวมถึงการสร้างภาระให้ผู้แทนมากเกินไป โดยที่ผู้แทนไม่มีมวลชนหนุน ผู้แทนก็สามารถเลือกแปรพักตร์ได้ง่าย ไม่รวมถึงผู้แทนที่แฝงตัวมาจากพรรคตรงข้าม แล้วถ้าวันใดที่ผู้แทนแปรพักตร์ไป พรรคก้าวไกลก็ต้องมีปัญหากับการเฟ้นหาผู้แทนคนใหม่ในเวลาการคัดกรองที่น้อยลงมากๆ ซ้ำนั้นยังไม่พอ สมาชิกที่มาจากผู้แทนคนนั้นก็อาจจะลาออก ทำให้พรรคต้องคอยมาหาสมาชิกในเขตนั้นใหม่เพื่อรับรองผู้แทนคนใหม่ ซึ่งยิ่งถ้าให้ผู้แทนคนใหม่หาก็ยิ่งสร้างภาระให้กับผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนมากขึ้นไปอีก ดังนั้นการที่พรรคเลือกสร้างผู้แทนก่อนสมาชิก สำหรับมุมมองส่วนตัวผมจึงไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องงูเห่าแต่อย่างใด แล้วการสร้างสมาชิกหลังสร้างผู้แทนก็เป็นเรื่องที่ช้าไป เพราะสมาชิกพรรคแบบธรรมชาติก็จะเจอกลุ่มก้อนสมาชิกของผู้แทน ทำให้เวลาโหวตก็เหมือนว่าฝั่งผู้แทนมีเสียงตุนเอาไว้อยู่แล้ว การจะเปลี่ยนผู้แทนในกรณีที่ผู้แทนไม่ทำงานก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้นอีกระดับหนึ่ง

ใช่ว่าจากสถานการณ์จะไม่มีทางแก้ไขเลย แม้ว่าแก้ยากแต่ก็ยังพอแก้ไขได้ แต่ต้องยึดกุมเรื่องของสมาชิกพรรคเอาไว้มากๆ ชัยชนะของก้าวไกลไม่ได้อยู่ที่ Big Name คนไหน แต่อยู่ที่ความสามารถในการสร้างมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค พรรคต้องให้ความสำคัญมากๆกับการสร้างระบบสมาชิกที่เติบโตทั้งบทบาท ความคิดและอุดมการณ์ เพราะที่ผ่านมาต้องเรียกว่าพรรคละเลยระบบสมาชิกมาก มีอยู่แต่แทบไม่ได้ engage สมาชิกพรรคเลย ความแตกต่างระหว่างสมาชิกกับประชาชนทั่วไปในการรับข่าวสารและทำกิจกรรมคือแทบจะเรียกได้ว่าเกือบเท่าเทียมกัน กิจกรรมที่ให้สมาชิกมีส่วนร่วมก็แทบจะไม่มี ไม่ต้องพูดถึงระบบที่จะสร้างสมาชิกให้เติบโตทั้งบทบาท ความคิดและอุดมการณ์เลย อย่างมากพรรคอาจจะเรียกสมาชิกตอนโหวตรับรองอะไรบางอย่าง แต่ส่วนใหญ่การโหวตรับรองด้วยการไม่มีส่วนร่วมของสมาชิกก็เป็นการทำพิธีเพื่อให้ผ่านกฎหมายเฉยๆ ดังนั้นถ้าพรรคจะแก้เกม พรรคต้องสร้างระบบการเติบโตของสมาชิก เพื่อที่สมาชิกที่เป็นบุคคลทั่วไปในวันนี้ เมื่อผ่านเข้าระบบพัฒนาสมาชิกแล้ว จะสามารถเข้ามารับบทบาทที่สร้างผลต่อการดำเนินงานของพรรคได้ในอนาคต และผู้แทนที่มาจากระบบนี้ที่มีสมาชิกพรรคเป็นฐานรากก็แทบจะไม่เป็นงูเห่าได้เลย เพราะสิ่งที่ร้อยรัดผู้แทนไว้ไม่ใช่ผลประโยชน์ แต่เป็นชุดอุดมการณ์และเสียงของผู้ที่ส่งเขาเข้ามาต่อสู้ทางการเมืองต่อ และการที่เขาจะเลือกทรยศความไว้วางใจก็ราคาแพงกว่าการไม่มีรากฐานเสมอ

ความคิดเห็น (17)

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ หรือ สร้างบัญชี เพื่อแสดงความคิดเห็น
  • Freedom

    เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้มากครับ
    ตอนนี้ปัญหาของผู้สมัครในหลายๆพื้นที่คือ ถูกส่วนกลางคัดเลือกมา ไม่รู้จักพื้นที่ดีพอ ไม่มีฐานมวลชน และตัวผู้สมัครเองก็ศักยภาพยังไม่สูงพอที่จะสร้างมวลชนเองได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้สมัครอาจเร่หาสมาชิกมาเพียงพอต่อการตั้งตทจ.ได้ หาคนที่ตกลงรับบทเป็นตทจ.และรองตทจ.ได้ แต่ไม่เกิด engagement ทางใจเพราะรู้สึกว่าเป็นแค่พิธีกรรมตามกฎหมาย ตทจ.ควรเกิดขึ้นโดยกระบวนการที่ Organic จากการมีส่วนร่วมของสมาชิกให้ได้มีปฏิสัมพันธ์รู้จักกัน และทีมงานจังหวัดที่เกิดขึ้นโดยการรวมตัวกันอย่าง Organic จะช่วยก่อร่างคนที่มีบุคลิคของความเป็นผู้นำและผูกพันธ์กับสมาชิก คนแบบนี้จะเหมาะสมให้ทีมจังหวัดได้คัดเลือกให้เป็นว่าที่ผู้สมัครได้ อาจให้คัดเลือกได้หลายคนแล้วส่วนกลางเป็นคนตัดสินสุดท้าย

    • Freedom

      ยิ่งความผู้กพันธ์สูง โอกาสที่ผู้สมัครหักหลังเป็นงูเห่าก็ยิ่งมีน้อย

      ไม่มีความคิดเห็น
      1 คะแนน  | 
      1
      0
      • blueocynia
        blueocynia  •  ผู้เขียน  •  2022-08-26 13:51:17

        จะให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ส่วนกลางต้องพัฒนาทีมที่ไปกระตุ้นความ Organic นี้ ซึ่งไม่ควรเป็นผู้สมัคร สส. เพราะจะเกิด Conflict of Interest ขึ้น ทางที่ดีทีมส่วนกลางต้องสร้างทีมงานจากส่วนกลางให้ลงไปเป็นผู้ประสานงานที่เอื้อให้ความ Organic นี้เกิดเร็วขึ้นครับ ถ้าที่ไหนพอตั้งหลักได้แล้วผู้ประสานงานคนนั้นก็ไปทำในพื้นที่อื่นต่อแทน

        ไม่มีความคิดเห็น
        0 คะแนน  | 
        0
        0
      • Thepkanith

        เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ในประเด็นการที่ต้องให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรค เรื่องสมาชิกพรรคนี้ทำให้ผมเชื่อมโยงไปอีกหัวข้อ (ที่ปักหมุดเช่นกัน) ที่ admin ลงไว้เรื่อง "ออกแบบการลงพื้นที่" การสร้างกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้สมาชิกพรรคในพื้นที่นั้นๆ พบปะกัน เพื่อตอกย้ำอุดมการณ์ แนวความคิด หรือเรื่องต่างๆ แล้วสื่อสารออกไป อาจจะช่วยดึงจำนวนสมาชิกมาเพิ่มขึ้น สมาชิกที่เพิ่มขึ้นก็หมายถึงฐานคะแนนเสียงที่กว้างขึ้น

        • blueocynia
          blueocynia  •  ผู้เขียน  •  2022-08-26 13:39:33

          เห็นด้วยครับกับการสร้างกิจกรรมพรรคอย่างต่อเนื่อง เอาเข้าจริงๆแล้วสำหรับพื้นที่ที่บุกเบิกแต่พอมีสมาชิกอยู่บ้าง ทีมงานส่วนกลางสามารถส่งทีมลงไปจัดตั้งสมาชิกพรรคในพื้นที่ได้ด้วยการเรียกว่าประชุมสมาชิกในพื้นที่นั้นๆ แล้วมอบแนวทางคร่าวๆเพื่อให้สมาชิกได้แนวทางในการจัดทำกิจกรรมของตนเอง พร้อมทั้งมอบหมายให้ตัวแทนจากส่วนกลางในทีมที่ลงไปซักคนเป็นเสมือนผู้ประสานงาน โดยหน้าที่ของผู้ประสานงานจะทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมสมาชิกให้อยู่ในแนวทาง และเคลียร์เอกสารที่จำเป็น แต่ไม่เข้าไปแทรกแซงมากเกินไปให้สมาชิกปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไร ผู้ประสานงานจะเป็นเพียงที่ปรึกษาที่แนะนำว่าเคสที่อื่นทำอะไรประมาณไหน หรือทำอย่างไรจึงจะสอดคล้องกับแนวทางพรรค โดยอาจจะอยู่ในพื้นที่ราวๆ 3-6 เดือนตามความเหมาะสมที่สมาชิกเริ่มตั้ง ตทจ.ได้ ซึ่งจะเป็นกลไกที่ส่งเสริมให้สมาชิกจับกลุ่มทำกิจกรรมกัน เมื่อมีกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวทางของพรรคในปริมาณที่ถี่และต่อเนื่องเพียงพอ เช่น การจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิก การทำกิจกรรมระดมทุน การทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ การตั้งเวทีสาธารณะ เป็นต้น

          ไม่มีความคิดเห็น
          1 คะแนน  | 
          1
          0
        • Promtada

          อยากให้คัดเอาคนที่ไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อนและไม่เคยอยู่พรรคการเมืองใดมาก่อน จะน่าเชื่อถือกว่า เหมาะแก่การพิจารณาเป็นผู้สมัคร สส จะหมดกังวลเรื่อง สส งูเห่า ได้มากเลยครับ พรรคแรกคือบ้านหลังแรก จะรักและผูกพันเสมอ จะทุ่มเทจริงใจกับพรรคมากกว่าครับ ผมคนเพชรบูรณ์อยากให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นครับ

          ไม่มีความคิดเห็น
          1 คะแนน  | 
          1
          0
          • จุลพงศ์

            งานสมาชิกสัมพันธ์ของพรรคยังอ่อนมากครับ ควรปรับปรุงด่วน อย่าให้สมาชิกพรรคต้องรู้สึกว่าพรรคจะเข้าหาสมาชิกก็ตอนใกล้เลือกตั้งเท่านั้นครับ

            ไม่มีความคิดเห็น
            1 คะแนน  | 
            1
            0
            • NSFW NSFW

              เห็นด้วยกับความคิดนี้ครับ

              ไม่มีความคิดเห็น
              1 คะแนน  | 
              1
              0
              • Daniel_Never_Die

                ตอนนี้ หลายๆ ว่าที่ผู้สมัคร แอบมาเนียนทำงานกับพรรค แต่ดูๆ หลายๆคน ถ้าได้ หรือไม่ได้ พร้อมจะออกไปแน่นอน และบางส่วนก็เข้ามาทำลายพรรค แบบนี้จะไม่ออก แต่ จะอยู่เป็นปรสิต ทำลายพรรคไปเรื่อยๆ

                • blueocynia
                  blueocynia  •  ผู้เขียน  •  2022-08-26 13:45:30

                  เรื่องผู้สมัครแฝงเป็นเรื่องที่น่ากังวลครับ เอาเข้าจริงพวกปรสิตนี่น่ากลัวกว่างูเห่าเยอะ แต่ถ้ากลไกสมาชิกเป็นระบบขึ้น และตั้งอยู่บนพื้นฐานการทำงานด้วยอุดมการณ์พรรคในความถี่ที่เพียงพอแล้ว สองสิ่งนี้จะอยู่ได้ไม่นานครับ เพราะสองสิ่งนี้อิงอาศัยกับ Big Name เมื่อไหร่ที่กระจายอำนาจให้สมาชิกอย่างจริงจังแล้ว คนกลุ่มนี้จะเริ่มอยู่ลำบากขึ้นครับ

                  ไม่มีความคิดเห็น
                  1 คะแนน  | 
                  1
                  0
                • ชุมพล หงษ์ทอง

                  คนที่จะมาเป็นตัวแทนพรรคต้องได้รับการเข้าอบรมเกี่ยวกับพรรค นโยบาย และรูปแบบที่พรรคกำหนดไว้ ทำงานเป็นกลุ่่มก้อน ทำงานแนวทางเดียวกัน จะลดการเป็นงูเห่าได้เยอะเลยครับ

                  • blueocynia
                    blueocynia  •  ผู้เขียน  •  2022-08-26 13:53:26

                    การทำงานเป็นทีมเป็นทักษะที่จำเป็นเลยครับ ถ้าไม่ทำงานร่วมกันก็ไม่มีทางรู้บทบาทของกันและกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำงานก็ต้องสอดคล้องกับอุดมการณ์และนโยบายพรรคเช่นกัน ไม่อย่างนั้นทีมงานอาจจะหนทางไปกับแนวทางแบบอำนาจนิยมเอาได้

                    ไม่มีความคิดเห็น
                    0 คะแนน  | 
                    0
                    0
                  • ผู้ดูแลระบบ #3  •  2022-08-21 13:25:22

                    ขอบคุณข้อเสนอจากคุณ blueocynia เรื่องการคัดกรองสมาชิก/ผู้แทนและประเด็นเรื่องงูเห่าด้วยครับ. คุณ blueocynia ให้รายละเอียดมาเยอะและตั้งใจมาก. เดี๋ยวรอท่านอื่น ๆ มาให้ความเห็นต่อครับ

                    ไม่มีความคิดเห็น
                    1 คะแนน  | 
                    1
                    0
                    • วัชรัตน์ ตาสอน

                      ถึงกับต้องเข้าระบบมาเพื่อโหวตชื่นชอบความเห็นนี้เลย ถูกใจขนาดไหนลองคิดดู

                      ไม่มีความคิดเห็น
                      0 คะแนน  | 
                      0
                      0
                      • Rattapon Punthongpund

                        การคัดเลือกคนมาทำงานให้พรรค ควรใช้
                        “A LITMUS TEST” (ตัวชี้วัดว่าพฤติกรรมนักการเมืองคนนี้เป็นเผด็จการหรือต่อต้านประชาธิปไตยหรือไม่) เค้าคิดออกมาเตือนประชาชนที่จะเลือกตั้งและเตือนพรรคการเมืองด้วยว่า อย่าให้คนที่มีลักษณะแบบนี้เข้าไปมีอำนาจทางการเมืองการปกครองได้ มี 4 ตัวชี้วัด หากมีอันใดอันหนึ่งถือว่าใช่เลย คนเขียนเชื่อว่า หากเรา identify คนพวกนี้ได้เร็วก่อนเค้าเข้าไปมีอำนาจ ก็จะช่วย save democracy ได้ตั้งแต่แรก (หนังสือเรื่อง How Democracies Die เขียนโดยอาจารย์ Harvard 2 คนด้านวิชาวิทยาศาสตร์การเมืองด้วย) เขียนไม่ได้ยาวนะครับ จะ post ไว้ที่หัวข้อต่อๆ ไปเพิ่ม

                        • Rattapon Punthongpund

                          1. ปฏิเสธหรือไม่ให้ความสำคัญกับกฎกติกาทางประชาธิปไตย
                          1.1) ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือแสดงความเต็มใจที่จะละเมิด
                          1.2) เสนอความจำเป็นในการใช้มาตรการต่อต้านประชาธิปไตย เช่น ให้ยกเลิกการเลือกตั้ง ละเมิดหรือระงับการใช้รัฐธรรมนูญ ห้ามองค์กรบางองค์กร หรือจำกัดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานทางการเมืองของประชาชน
                          1.3) หาทางใช้หรือสนับสนุนให้มีการใช้วิธีการนอกเหนือรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนรัฐบาล เช่น รัฐประหาร การจลาจล หรือประท้วงระดับใหญ่เพื่อบังคับให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล
                          1.4) พยายามทำลายความชอบธรรมของการเลือกตั้ง เช่น ปฏิเสธรับผลการเลือกตั้งที่เชื่อถือได้
                          2. ปฏิเสธความชอบธรรมของฝ่ายค้าน/คู่แข่งทางการเมือง
                          2.1) ได้อธิบายว่าฝ่ายค้านทำลายหรือต่อต้านกติกาตามรัฐธรรมนูญที่มี
                          2.2) อ้างว่าคู่แข่งเป็นภัยคุกคามไม่ว่าเรื่องมั่นคงของรัฐหรือความเป็นอยู่ของประชาชน
                          2.3) อ้าง (แบบไม่มีมูล) ว่าคู่แข่งเป็นอาชญากรทำผิดกฎหมาย (หรือมีแนวโน้มทำผิดกฎหมาย) ลดคุณค่าของคู่แข่งในการเข้าสู่สนามการเมือง
                          2.4) อ้าง (แบบไม่มีมูล) ว่าคู่แข่งเป็นตัวแทนของต่างชาติ ไปเป็นพันธมิตรกับต่างชาติ (หรือถูกจ้าง) โดยเฉพาะชาติที่เป็นศัตรูด้วย

                          • Rattapon Punthongpund

                            3. มีความอดทนต่อหรือการสนับสนุนความรุนแรง
                            3.1) มีความสัมพันธ์กับกลุ่มมีอาวุธ ทหารรับจ้าง กองทัพ กองกำลัง หรือองค์กรอื่นใดที่ก่อให้เกิดความรุนแรงได้
                            3.2) ได้สนับสนุน (โดยคนนี้เองหรือโดยพันธมิตรของคนนี้) ให้มีการใช้ม๊อบโจมตีคู่ต่อสู้
                            3.3) ได้สนับสนุน (โดยนัย) คนที่สนับสนุนเค้าในการก่อความรุนแรง โดยไม่ประณามหรือลงโทษในเรื่องนี้
                            3.4) ได้ชื่นชมหรือปฏิเสธที่จะประณามการกระทำอื่นใดเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองไม่ว่าจะในอดีตหรือที่ใดในโลก
                            4. มีความพร้อมที่จะจำกัดเสรีภาพของประชาชน/คู่แข่ง รวมถึง สื่อ
                            4.1) ไปสนับสนุนกฎหมายหรือนโยบายซึ่งจำกัดเสรีภาพของประชาชน เช่น ไปขยายกฎหมายหมิ่นประมาท หรือกฎหมายจำกัดการประท้วง การวิจารณ์รัฐบาล หรือองค์กรภาคประชาชน
                            4.2) ข่มขู่ที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายหรือมาตรการอื่นใดที่จะจัดการกับคนวิจารณ์ในฝ่ายค้าน ภาคประชาสังคม หรือสื่อ
                            4.3) ได้ชื่นชมมาตรการกดขี่ที่รัฐบาลอื่นใช้ไม่ว่าจะในอดีตหรือที่ใดในโลก

                            ป.ล. หากเข้าข้อหนึ่งข้อใด ไม่ควรรับมาเข้าทำงานให้พรรค หากต้องการประชาธิปไตยที่่แท้จริง

                            ไม่มีความคิดเห็น
                            0 คะแนน  | 
                            0
                            0