อีกหนึ่งความเห็นจากโลกออนไลน์คือ…
“ก้าวไกลควรลงไปคลุกกับคนหาเช้ากินค่ำ ชาวนาชาวสวน แรงงานกรรมาชีพให้มากกว่านี้ใช้ภาษาง่ายๆ บ้านงดวิชาการลง ทำงานมวลชนให้มากๆ”
https://twitter.com/Y94864/status/1553933231409442816?s=20&t=OqsdRZNjb9F7JdtCIiE0qw
ขอเอนเนอจี้แบบ อนาคตใหม่ หรือไปเอาวิธีการทำสื่อของคณะก้าวหน้ามาเถอะ ทุกวันนี้สื่อของพรรคน่าเบื่อและไม่น่าติดตามเอามากๆ
เห็นด้วยครับ ผมชอบสื่อของคณะก้าวหน้ามาก
วิชาการควรคงไว้ แต่ทำงานพื้นที่มากขึ้นไปด้วย และเพิ่มการเรียนร้ให้ชาวบ้านโดยใช้ถ้อยคำง่ายๆไปด้วย
เห็นด้วยครับ โดยเริ่มจากต่างจังหวัด ไม่ว่าจะสนามใหญ่หรืิอสนามเล็ก ผู้แทนต้้องเริ่มทำผลงานตั้งแต่ก่อนฤดูกาลเลือกตั้ง ไปพูดคุย คลุกคลี รับฟังปัญหาและความต้องการของคนในพื้นที่ ต้องมีสมาชิกพรรคในทุกพื้นที่ที่จะร่วมทำงานสนับสนุนกัน ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่มาทำงานกทม. จังหวัดบ้านเกิดผมมีตัวแทนพรรคก้่าวไกลที่ถือว่าใหญ่โตในพรรคฯเลย แต่คนรอบตัวผม เพื่อนฝูง ครอบครัว ไม่มึใครรู้จัก ไม่มีใครเห็นผลงานของตัวแทนพรรคฯเลย สิ่งเดียวที่รู้คือ อ๋อนี่ของพรรคก้าวไกลแค่นั้น คุณทำเพจออนไลน์ก็จริง แต่คนต่างจังหวัดไม่ได้ติดตาม ไม่ได้มีส่วนร่วมมากม สิ่งเหล่านี้ผมว่าไม่เกิดประโยชน์เท่ากับการได้เจอตัวเป็นๆ ได้เห็นผลงานที่จับต้องได้ โดยเฉพาะสังคมในต่างจังหวัดที่ยังยึดโยงกับอะไรเดิมๆ ผู้แทนหน้าเก่า หรือผู้แทนหน้าใหม่ที่สืบสายเลือดจากคนในครอบคร้ว ถ้าพรรคฯไม่ทำอะไรที่ให้เป็นที่จดจำอย่างชัดเจน การจะได้คะแนนจากคนต่างจังหวัดเป็นเรื่องยากมากๆครับ
เบื้องหลังตัวผมเป็นชนชั้นกลางในจังหวัดปริมณฑลไม่เคยต้องพึ่งพาส.ส.เลยไม่เห็นถึงความจำเป็นในการลงพื้นที่ของส.ส.แต่จะติดตามผ่านทางสื่อและช่องทางออนไลน์และจะให้ความสำคัญกับงานด้านนิติบัญญัติมากกว่าเพราะมองว่านั่นคือหน้าที่จริงๆของผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ด้วยผมโตมาแบบนี้สภาพแวดล้อมแบบนี้สังคมแบบนี้ทำให้ผมไม่เข้าใจว่าคนที่อื่นเค้าอยู่กันยังไง ต้องการอะไรบ้าง แต่จากการติดตามผลการเลือกตั้งและการแสดงความเห็นทางการเมือง ทำให้ผมมีมุมมองว่ากระแสในสื่อสังคมออนไลน์มีผลน้อยกับจังหวัดที่เป็นสังคมปิด ไม่ได้สนใจกระแสด่าที่เกิดมาจากนอกพื้นที่ เพราะฉะนั้นผมให้กำลังใจพรรคในการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงแนวทางของพรรคอย่างตรงไปตรงมา อย่าเห็นชาวบ้านเป็นแค่เบี้ยที่พูดโกหกครึ่งความจริงครึ่งเพื่อให้เข้าใจอะไรผิดๆและเลือกพรรคตัวเองเพราะความเข้าใจผิดต่อพรรคอื่น (คือผมเข้าใจว่าพรรคอื่นทำเพราะเวลาเห็นความเห็นในสังคมออนไลน์ท่องอะไรเพี้ยนๆตามกันมา)
เห็นด้วยครับ ข้อมูลหลายๆอย่างหนักแน่นละเอียด แต่ย่อยยาก การสื่อสารกับคนหลายๆกลุ่มอาจจะต้องดูว่าทำยังไงให้ย่อยง่ายกับชาวบ้านทั่วไปครับ สำหรับส่วนตัวผมชอบละเอียดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีเวลามานั่งดูเหมือนกัน
ควรมีทั้งสองเวอร์ชั่น แบบวิชาการก็ควรมีอยู่(แต่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น) และเพิ่มเวอร์ชั่นชาวบ้านเข้ามาอีก(ประเด็นใกล้ตัวชาวบ้าน เนื้อหาเข้าใจง่ายมาก) ซึ่งช่องทางคงไม่เน้นออนไลน์เท่าเวอร์ชั่นแรก
เห็นด้วยในเรื่องการทำงานกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่พื้นที่ ที่จะมีบุคคล เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ, คณะกรรมการบริหารพรรค ฯ มาร่วมลงพื้นที่ติดตามปัญหาหรือมาร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครับ ซึ่งถ้าหากเฉลี่ยแล้วยังมีน้อยครับ ลำพังว่าที่ผู้สมัคร ฯ ที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีอำนาจและทำหน้าที่ประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว แต่ไม่มีควาาคืบหน้า ย่อมเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์การทำงานแบบก้าวไกลครับ ซึ่งควรจะมีการดำเนินการส่วนนี้ให้มากขึ้น
ส่วนเรื่องของวิชาการ คิดว่าควรมีการปรับปรุบ content ใน Facebook อาจจะมีการสรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ และบทความทางวิชาการควรไปรวมอยู่ใน website ของพรรค ฯ ซึ่งควรออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ซับซ้อนเหมือน website ที่รวมงานทางวิชาการของหน่วยงานภาครัฐ
สิ่งที่ก้าวไกลทำได้ดีและควรทำต่อคือการมีแนวคิดเชิงหลักการ งานวิชาการ งานละเอียด แต่อีกด้านที่สำคัญไม่แพ้กันคือ พรรคก้าวไกลควรมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถทำให้สื่อสารแนวคิดนั้นอย่างเข้าใจง่ายไปยังกลุ่มคนที่ยังไม่สนใจการเมือง หรือยังไม่เข้าใจสาระทางการเมือง เพื่อให้กลุ่มเหล่านี้เห็นความสำคัญว่าการสนับสนุนและการโหวตให้พรรคก้าวไกลนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ (ยกตัวอย่างวิดิโอที่ผมมองว่าสื่อสารได้ดี https://www.youtube.com/watch?v=RlRsjPf0XdY)
- สาย social เน้น infographic ที่ย่อยง่าย shape norm ของสังคมในแนวเชิญชวนและให้ข้อมูลแนว fyi - สาย local เน้นเปิด town hall + เจาะกลุ่มปัญหาที่กระทบกับประเด็นสำคัญเช่น ชาวบ้านโดนรัฐละเมิดสิทธิ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการต่างๆโดยเฉพาะจากหน่วยงานรัฐ เน้นเอาปัญหามาแก้ตัวบท มา reshape โครงสร้างกฎหมาย นอกจากจะทำให้ชาวบ้านเข้าใจสิทธิ์และได้รับการแก้ไขปัญหาแล้วยังสามารถป้องกันปัญหาที่อาจเกิดซ้ำ
นอกจากง่ายแล้วควรจะคุยกันด้วยว่าโทนการสื่อสารจะเป็นยังไง จะสื่อสารเชิงบวก แบบ positive เว่อร์ๆ เพราะคนไทยชอบแบบนี้ หรือจะด่าแหลก เน้นสะใจ หรือกลางๆ เน้นเสนอทางออก ก็ลองคุยกันดูนะ
ขอเอนเนอจี้แบบ อนาคตใหม่
หรือไปเอาวิธีการทำสื่อของคณะก้าวหน้ามาเถอะ ทุกวันนี้สื่อของพรรคน่าเบื่อและไม่น่าติดตามเอามากๆ
เห็นด้วยครับ ผมชอบสื่อของคณะก้าวหน้ามาก
วิชาการควรคงไว้ แต่ทำงานพื้นที่มากขึ้นไปด้วย
และเพิ่มการเรียนร้ให้ชาวบ้านโดยใช้ถ้อยคำง่ายๆไปด้วย
เห็นด้วยครับ โดยเริ่มจากต่างจังหวัด ไม่ว่าจะสนามใหญ่หรืิอสนามเล็ก ผู้แทนต้้องเริ่มทำผลงานตั้งแต่ก่อนฤดูกาลเลือกตั้ง ไปพูดคุย คลุกคลี รับฟังปัญหาและความต้องการของคนในพื้นที่ ต้องมีสมาชิกพรรคในทุกพื้นที่ที่จะร่วมทำงานสนับสนุนกัน
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่มาทำงานกทม. จังหวัดบ้านเกิดผมมีตัวแทนพรรคก้่าวไกลที่ถือว่าใหญ่โตในพรรคฯเลย แต่คนรอบตัวผม เพื่อนฝูง ครอบครัว ไม่มึใครรู้จัก ไม่มีใครเห็นผลงานของตัวแทนพรรคฯเลย สิ่งเดียวที่รู้คือ อ๋อนี่ของพรรคก้าวไกลแค่นั้น คุณทำเพจออนไลน์ก็จริง แต่คนต่างจังหวัดไม่ได้ติดตาม ไม่ได้มีส่วนร่วมมากม
สิ่งเหล่านี้ผมว่าไม่เกิดประโยชน์เท่ากับการได้เจอตัวเป็นๆ ได้เห็นผลงานที่จับต้องได้ โดยเฉพาะสังคมในต่างจังหวัดที่ยังยึดโยงกับอะไรเดิมๆ ผู้แทนหน้าเก่า หรือผู้แทนหน้าใหม่ที่สืบสายเลือดจากคนในครอบคร้ว ถ้าพรรคฯไม่ทำอะไรที่ให้เป็นที่จดจำอย่างชัดเจน การจะได้คะแนนจากคนต่างจังหวัดเป็นเรื่องยากมากๆครับ
เบื้องหลังตัวผมเป็นชนชั้นกลางในจังหวัดปริมณฑลไม่เคยต้องพึ่งพาส.ส.เลยไม่เห็นถึงความจำเป็นในการลงพื้นที่ของส.ส.แต่จะติดตามผ่านทางสื่อและช่องทางออนไลน์และจะให้ความสำคัญกับงานด้านนิติบัญญัติมากกว่าเพราะมองว่านั่นคือหน้าที่จริงๆของผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ด้วยผมโตมาแบบนี้สภาพแวดล้อมแบบนี้สังคมแบบนี้ทำให้ผมไม่เข้าใจว่าคนที่อื่นเค้าอยู่กันยังไง ต้องการอะไรบ้าง แต่จากการติดตามผลการเลือกตั้งและการแสดงความเห็นทางการเมือง ทำให้ผมมีมุมมองว่ากระแสในสื่อสังคมออนไลน์มีผลน้อยกับจังหวัดที่เป็นสังคมปิด ไม่ได้สนใจกระแสด่าที่เกิดมาจากนอกพื้นที่ เพราะฉะนั้นผมให้กำลังใจพรรคในการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงแนวทางของพรรคอย่างตรงไปตรงมา อย่าเห็นชาวบ้านเป็นแค่เบี้ยที่พูดโกหกครึ่งความจริงครึ่งเพื่อให้เข้าใจอะไรผิดๆและเลือกพรรคตัวเองเพราะความเข้าใจผิดต่อพรรคอื่น (คือผมเข้าใจว่าพรรคอื่นทำเพราะเวลาเห็นความเห็นในสังคมออนไลน์ท่องอะไรเพี้ยนๆตามกันมา)
เห็นด้วยครับ ข้อมูลหลายๆอย่างหนักแน่นละเอียด แต่ย่อยยาก การสื่อสารกับคนหลายๆกลุ่มอาจจะต้องดูว่าทำยังไงให้ย่อยง่ายกับชาวบ้านทั่วไปครับ สำหรับส่วนตัวผมชอบละเอียดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีเวลามานั่งดูเหมือนกัน
ควรมีทั้งสองเวอร์ชั่น แบบวิชาการก็ควรมีอยู่(แต่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น)
และเพิ่มเวอร์ชั่นชาวบ้านเข้ามาอีก(ประเด็นใกล้ตัวชาวบ้าน เนื้อหาเข้าใจง่ายมาก) ซึ่งช่องทางคงไม่เน้นออนไลน์เท่าเวอร์ชั่นแรก
เห็นด้วยในเรื่องการทำงานกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่พื้นที่ ที่จะมีบุคคล เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ, คณะกรรมการบริหารพรรค ฯ มาร่วมลงพื้นที่ติดตามปัญหาหรือมาร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครับ ซึ่งถ้าหากเฉลี่ยแล้วยังมีน้อยครับ ลำพังว่าที่ผู้สมัคร ฯ ที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีอำนาจและทำหน้าที่ประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว แต่ไม่มีควาาคืบหน้า ย่อมเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์การทำงานแบบก้าวไกลครับ ซึ่งควรจะมีการดำเนินการส่วนนี้ให้มากขึ้น
ส่วนเรื่องของวิชาการ คิดว่าควรมีการปรับปรุบ content ใน Facebook อาจจะมีการสรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ และบทความทางวิชาการควรไปรวมอยู่ใน website ของพรรค ฯ ซึ่งควรออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ซับซ้อนเหมือน website ที่รวมงานทางวิชาการของหน่วยงานภาครัฐ
สิ่งที่ก้าวไกลทำได้ดีและควรทำต่อคือการมีแนวคิดเชิงหลักการ งานวิชาการ งานละเอียด แต่อีกด้านที่สำคัญไม่แพ้กันคือ พรรคก้าวไกลควรมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถทำให้สื่อสารแนวคิดนั้นอย่างเข้าใจง่ายไปยังกลุ่มคนที่ยังไม่สนใจการเมือง หรือยังไม่เข้าใจสาระทางการเมือง เพื่อให้กลุ่มเหล่านี้เห็นความสำคัญว่าการสนับสนุนและการโหวตให้พรรคก้าวไกลนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ
(ยกตัวอย่างวิดิโอที่ผมมองว่าสื่อสารได้ดี https://www.youtube.com/watch?v=RlRsjPf0XdY)
- สาย social เน้น infographic ที่ย่อยง่าย shape norm ของสังคมในแนวเชิญชวนและให้ข้อมูลแนว fyi
- สาย local เน้นเปิด town hall + เจาะกลุ่มปัญหาที่กระทบกับประเด็นสำคัญเช่น ชาวบ้านโดนรัฐละเมิดสิทธิ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการต่างๆโดยเฉพาะจากหน่วยงานรัฐ เน้นเอาปัญหามาแก้ตัวบท มา reshape โครงสร้างกฎหมาย นอกจากจะทำให้ชาวบ้านเข้าใจสิทธิ์และได้รับการแก้ไขปัญหาแล้วยังสามารถป้องกันปัญหาที่อาจเกิดซ้ำ
นอกจากง่ายแล้วควรจะคุยกันด้วยว่าโทนการสื่อสารจะเป็นยังไง จะสื่อสารเชิงบวก แบบ positive เว่อร์ๆ เพราะคนไทยชอบแบบนี้ หรือจะด่าแหลก เน้นสะใจ หรือกลางๆ เน้นเสนอทางออก ก็ลองคุยกันดูนะ