เรื่องหนึ่งที่หลายคนมักพูดถึงและผิดหวังกับอนาคตใหม่/ก้าวไกล ก็คือมี ส.ส. จำนวนนึงไม่ทำตามเจตนารมณ์ของพรรคที่ประชาชนเลือก
ดังนั้นแล้วจึงอยากให้พรรคก้าวไกลคัดเลือกผู้แทนที่ดี มีความซื่อสัตย์ต่อเสียงประชาชนที่ได้โหวตเลือกพรรคนี้ด้วย ไม่เอางูเห่า!
https://twitter.com/MFPThailand/status/1553923473411432450
เรื่องงูเห่าเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยโทษพรรค(แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคไม่มีความรับผิดชอบ) เพราะเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้เกินกำลังของพรรคไปไกลมาก อิทธิพลของกลุ่มอำนาจในประเทศนี้มันใหญ่ชนิดที่ไม่มีอะไรป้องกันได้ หลักกฎหมายก็บิดไปบิดมาได้เพราะฉะนั้นไม่เหลืออะไรไว้คุ้มครองใครได้
ไม่ควรเลือกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ลงสมัคร สส เขต
ควรเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการลงสมัคร
หากไม่ได้ สส ยังดีกว่าได้งูเห่า
ปัญหางูเห่าเป็นเรื่องที่ควรแตะแต่ไม่ควรกระพือ ควรแต่หมายถึงควรแก้ไข แต่ไม่ควรกระพือคือไม่ควรให้เป็นกระแส เพราะเมื่อเป็นกระแสจะเกิดความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วเกิดสภาพตรวจสอบกันเองภายในมากเกินไป จนผู้คนที่อยู่ได้ก็อยู่อย่างอึดอัดและต้องคอยสอดส่องกันเองว่าใครจะไปรึเปล่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆมันเกิดจากปัจจัยภายในที่พรรคอนาคตใหม่เดินเกมเรื่องผู้สมัครเร็วไป และปัจจัยภายนอกที่พรรคคู่แข่งใช้วิธีลดทอนผู้สมัครเพื่อทำให้พรรคอ่อนแอลง ซึ่งก็ถือว่าได้ผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว คือระยะสั้นได้ตัว สส.ไป และระยะยาวพรรคต้องมาพะวงเรื่องงูเห่าจนถึงปัจจุบัน
อย่างที่เกริ่นไปว่าถึงอย่างไรก็ควรแก้ไข นั่นหมายความว่าที่ผ่านมารวมถึงตอนนี้แม้ว่ากระแสความใหม่จะหมดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก้าวไกลมีเวลามากกว่าช่วงอนาคตใหม่ในการคัดสรรหาผู้แทน ซึ่งวิธีที่พรรคเลือกใช้คัดผู้สมัครด้วยการเลือกผู้แทนก่อนการตั้งขบวน ถือว่าเป็นวิธีที่เหมือนจะพยายามแก้ปัญหางูเห่า แต่ไม่ได้แก้ไขได้ขนาดนั้น อย่าลืมว่ารากฐานที่พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคของประชาชนได้คือการเป็นพรรคมวลชน และผู้แทนก็ต้องมาจากมวลชนจึงจะยึดโยงกับรากฐาน
การได้มาซึงผู้แทนโดยไม่มีรากฐาน ซึ่งต่อให้พรรคต้องจ่ายเงินเพื่ออบรมผู้แทนที่ไม่ได้มาจากรากฐานมากแค่ไหน ก็ไม่อาจลบช่องว่างในจุดนี้ได้ เพราะหน้าที่ของผู้แทนคือการออกศึก ผู้แทนไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการสร้างฐานมวลชน(ต่อไปนี้จะเรียกว่าสมาชิก) หรือการให้ผู้แทนสร้างสมาชิกก็เป็นการคาดหวังและสร้างภาระต่อผู้แทนมากเกินไป รวมถึงสมาชิกที่ผู้แทนสร้างจะเป็นสมาชิกของผู้แทนไม่ใช่สมาชิกพรรค เมื่อไม่ใช่สมาชิกที่เป็นอิสระในการตัดสินใจมากนัก การตักเตือนหรือถ้าในอนาคตมีการโหวตเลือก ก็จะได้เสียงโหวตแบบฐานเสียงมากกว่าเสียงโหวตอิสระ พรรคต้องสร้างสมาชิกก่อนจึงควรมีผู้แทนจึงจะหยั่งรากได้อย่างมั่นคง และถ้าพรรคเลือกทำสมาชิกก่อน เวลาไม่เกิน 2 ปีผู้แทนที่มาจากประชาชนก็จะผลิดอกออกผล
แต่ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้เลือกทางนี้ สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมาคือสมาชิกจะมีเจ้าของ รวมถึงการสร้างภาระให้ผู้แทนมากเกินไป โดยที่ผู้แทนไม่มีมวลชนหนุน ผู้แทนก็สามารถเลือกแปรพักตร์ได้ง่าย ไม่รวมถึงผู้แทนที่แฝงตัวมาจากพรรคตรงข้าม แล้วถ้าวันใดที่ผู้แทนแปรพักตร์ไป พรรคก้าวไกลก็ต้องมีปัญหากับการเฟ้นหาผู้แทนคนใหม่ในเวลาการคัดกรองที่น้อยลงมากๆ ซ้ำนั้นยังไม่พอ สมาชิกที่มาจากผู้แทนคนนั้นก็อาจจะลาออก ทำให้พรรคต้องคอยมาหาสมาชิกในเขตนั้นใหม่เพื่อรับรองผู้แทนคนใหม่ ซึ่งยิ่งถ้าให้ผู้แทนคนใหม่หาก็ยิ่งสร้างภาระให้กับผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนมากขึ้นไปอีก ดังนั้นการที่พรรคเลือกสร้างผู้แทนก่อนสมาชิก สำหรับมุมมองส่วนตัวผมจึงไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องงูเห่าแต่อย่างใด แล้วการสร้างสมาชิกหลังสร้างผู้แทนก็เป็นเรื่องที่ช้าไป เพราะสมาชิกพรรคแบบธรรมชาติก็จะเจอกลุ่มก้อนสมาชิกของผู้แทน ทำให้เวลาโหวตก็เหมือนว่าฝั่งผู้แทนมีเสียงตุนเอาไว้อยู่แล้ว การจะเปลี่ยนผู้แทนในกรณีที่ผู้แทนไม่ทำงานก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
แต่ก็ใช่ว่าจากสถานการณ์จะไม่มีทางแก้ไขเลย แม้ว่าแก้ยากแต่ก็ยังพอแก้ไขได้ แต่ต้องยึดกุมเรื่องของสมาชิกพรรคเอาไว้มากๆ ชัยชนะของก้าวไกลไม่ได้อยู่ที่ Big Name แต่อยู่ที่ความสามารถในการสร้างมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค พรรคต้องให้ความสำคัญมากๆกับการสร้างระบบสมาชิกที่เติบโตทั้งบทบาท ความคิดและอุดมการณ์ เพราะที่ผ่านมาต้องเรียกว่าพรรคละเลยระบบสมาชิกมาก มีอยู่แต่แทบไม่ได้ engage สมาชิกพรรคเลย ความแตกต่างระหว่างสมาชิกกับประชาชนทั่วไปในการรับข่าวสารและทำกิจกรรมคือแทบจะเรียกได้ว่าเกือบเท่าเทียมกัน กิจกรรมที่ให้สมาชิกมีส่วนร่วมก็แทบจะไม่มี ไม่ต้องพูดถึงระบบที่จะสร้างสมาชิกให้เติบโตทั้งบทบาท ความคิดและอุดมการณ์เลย อย่างมากพรรคอาจจะเรียกสมาชิกตอนโหวตรับรองอะไรบางอย่าง แต่ส่วนใหญ่การโหวตรับรองด้วยการไม่มีส่วนร่วมของสมาชิกก็เป็นการทำพิธีเพื่อให้ผ่านกฎหมายเฉยๆ ดังนั้นถ้าพรรคจะแก้เกม พรรคต้องสร้างระบบการเติบโตของสมาชิก เพื่อที่สมาชิกที่เป็นบุคคลทั่วไปในวันนี้ เมื่อผ่านเข้าระบบพัฒนาสมาชิกแล้ว จะสามารถเข้ามารับบทบาทที่สร้างผลต่อการดำเนินงานของพรรคได้ในอนาคต และผู้แทนที่มาจากระบบนี้ก็แทบจะไม่เป็นงูเห่า
ขอบคุณข้อเสนอจากคุณ blueocynia ครับ
+++++ อยากให้คัดคนให้ดีกว่านี้จริง ๆ ครับ
ทำให้พรรคมีอิมเมจทางการเมืองที่ชัดเจนและแหลมคมมากๆ ให้บท ว่าที่ สส ในการสื่อสารเรื่องจุดยืนและอุดมการณ์ที่แหลมคมของพรรค แบบนี้ สส คนนั้น หรือ แทบทุกคนากพรรคนี้ จะไ่ม่สามารถย้ายไปพรรคอื่นทีเป็นเครือข่ายเจ้าได้ เพราะอิมเมจแบบนี้
คนที่จะเข้าพรรคก็จะเป็นคนที่มีอุดมการณ์เป็นส่วนใหญ่ พวกฉวยโอกาสจะน้อยมาก
เพิ่มเติมอ่านต่อในกระทู้นี้
https://next.moveforwardparty.org/debates/256
มีคนอื่นเสนอไว้ก่อนนี้ว่า ให้ทุกคนทเซ็นต์ใบลาออกไว้ล่วงหน้า ในเงื่อนไขว่า
ถ้าไม่สามารถทำงานหรือขัดแย้งกับหลักการพรรค aka งูเห่า ก็ถิอว่าใบลาออกมีผล ก็คิดว่าเป็นอะไรที่ใช้ได้
เห็นด้วยครับแต่คงต้องมีคณะกรรมการที่เป็นบุคคลที่สามมากลั่นกรองประเด็นความผิดแบบคณะลูกขุน ให้เป็นมาตราฐานเป็นที่ยอมรับ
งูเห่า เกิดจากอะไร เกิดจากเผด็จการ เขียนรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้ สส ขายตัว ใช่หรือไม่
ถ้าใช่ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ อย่าเขียนเปิดช่องให้ สส ขายตัว ใครขายตัว ก็ต้องขับออก เลือกตั้งใหม่ และที่สำคัญ ต้องทำสัญญาตอนสมัคร ให้มีการประจาน พวก สส ขายตัว โดยเอาข้อมูลประวัติ รูปถ่าย ออกมาประจาน ผ่านสื่อ ผ่านเฟสบุค..การไม่ประจานเท่ากับ พรรค สนับสนุนให้ขายตัวทางอ้อม
เอาแบบ บ้าน ๆ เลยนะครับ ถ่ายวีดีโอเก็บไว้เลย แสดงเจตจำนงว่าจะไม่เป็นงูเห่าไม่ว่าจะในการตีความแบบใด ๆ และยินยอมให้พรรคเผยแพร่วีดีโอนี้
ปล. เพื่อไทยยังมีงูเห่าเลยนะครับ
อัดวีดีโอไว้ วันไหนเป็นงูเห่า เอามาเปิด เอามาแฉ
เข้าใจพรรคค่ะว่าพยายามคัดคนอย่างดีที่สุด แต่ก็คิดว่าคงมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นแล้ว คราวหน้าเชื่อว่างูเห่าจะน้อยลงค่ะ 😁
555 คนที่เปิดตัว เป็นว่าที่ บางคนออกลายแล้ว
ขอเสนอให้สร้างส.ส.ในรูปแบบเป็นทีมงาน มีการตรวจสอบตัวแทนและรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ส่วนกลางและสมาชิกทราบ ไม่เน้นนักการเมืองบ้านใหญ่ เน้นอุดมการณ์และลงพัฒนาพื้นที่มากๆครับ
คำถามสำคัญคือที่ผ่านมางูเห่าของก้าวไกลเกิดขึ้นอย่างไรครับ
แค่เพราะคัดกรองไม่ดี? เงินหอมหวาน? หรือ ... (ปัจจัยอื่นๆที่เราก็ไม่ทราบ)